แม่บ้านสายคลีน ตอน แชร์ขั้นตอนทำความสะอาดห้องรับแขกให้สะอาดเอี่ยม
เคยสงสัยไหมว่าทำไมห้องรับแขกถึงสกปรกบ่อย ทั้งที่ทำความสะอาดบ่อยกว่าห้องอื่นๆ เพราะเป็นห้องที่ทุกคนในบ้านจะใช้ร่วมกัน เวลาทำความสะอาดที่ไรก็จะมีขี้ฝุ่นหลงเหลือทุกที วันนี้เราจะมาทำความสะอาดห้องรับแขกตามขั้นตอนที่ถูกต้อง เพื่อที่เราจะได้ประหยัดแรงไม่ต้องทำความสะอาดบ่อยๆ
1. ควรมีผ้าเช็ดเท้า
แม้ว่าคุณจะใส่สลิปเปอร์เข้าบ้านทุกครั้ง แต่ก็ใช่ว่าเศษดินและส่งสกปรกจะไม่มีโอกาสเข้าบ้านคุณได้ เพราะบางครั้งก็ต้องยอมรับว่าเราลืมตัวสวมใส่สลิปเปอร์เดินออกไปหลังบ้านเหมือนกัน ดังนั้นทางที่ดีควรวางผ้าเช็ดเท้าหรือพรมนุ่ม ๆ ไว้หน้าประตูบ้านและหน้าประตูทุกบาน จะได้เช็ดเท้าให้สะอาดก่อนเดินเข้าบ้าน ไม่ต้องหอบเอาเศษสกปรกเข้ามาเปื้อนในห้องรับแขกด้วย
2. รองมุมขาตู้ด้วยพรม
ตัดพรมให้มีขนาดใหญ่กว่าขนาดของขาตู้และโต๊ะเล็กน้อย แล้วจัดการติดกาวแปะเอาไว้ให้แน่นหนา เพื่อให้เป็นแผ่นรองขาโต๊ะและตู้ที่มีขนาดใหญ่และหนัก เวลาเคลื่อนย้ายไปทางไหนจะได้ไม่ขูดขีดพื้นบ้านให้เป็นร่องรอยจนมีฝุ่นเข้าไปสะสม กลายเป็นแหล่งเก็บกักฝุ่นทำความสะอาดยาก
3. กำจัดฝุ่นเป็นประจำ
ต้องยอมรับว่าเราไม่มีทางกำจัดฝุ่นในอากาศได้อย่างหมดจด ฉะนั้นปัญหาฝุ่นเกาะตามตู้และของแต่งบ้านอื่น ๆ จึงเกิดขึ้นเป็นประจำ และทางแก้ปัญหาฝุ่นเหล่านี้ก็ทำได้เพียงปัดกวาดเช็ดถูโต๊ะและตู้ให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อไม่ให้ฝุ่นเกาะตัวหนาจนดูสกปรกอย่างแรง
4.จำกัดพื้นที่สำหรับสัตว์เลี้ยง
ขนของสัตว์เลี้ยงมักจะติดอยู่ตามโซฟาบุนวมและแม้แต่บนพื้นหรือพรมก็ไม่เว้น ดังนั้นหากไม่อยากดูดฝุ่นเฟอร์นิเจอร์และห้องรับแขกทุกวัน เรามาจำกัดบริเวณน้องหมาน้องแมวให้อยู่เฉพาะมุมที่จัดไว้ให้
5. ทำความสะอาดโคมไฟทุกอาทิตย์
โคมไฟคือเฟอร์นิเจอร์อย่างหนึ่งที่มีฝุ่นเกาะอยู่เยอะมาก เราอาจจะละเลยไม่ได้ทำความสะอาดโคมไฟนาน เพราะอยู่สูง จึงทำให้บ้านมีขี้ฝุ่นเกาะอยู่ ดังนั้นคงดีกว่าถ้าเราจะหมั่นถอดโคมไฟมาทำความสะอาดทุกอาทิตย์ กำจัดฝุ่นที่ฟ้องถึงความสกปรกให้หมดไป
6. สวมถุงมือผ้าทุกครั้งก่อนจับกรอบรูปหรืองานศิลปะ
เคยสังเกตไหมคะว่าเวลาที่เราจับกรอบรูปหรือเคลื่อนย้ายภาพวาดติดฝาผนัง สีของกรอบรูปและรูปวาดจะติดมือเรามาด้วยทุกครั้ง ซึ่งก็เท่ากับว่าสีบนกรอบรูปและรูปวาดจะต้องสูญหายไปบางส่วน ทำให้ดูกระด่างกระดำไม่สมบูรณ์เหมือนตอนได้มาใหม่ ๆ อีกทั้งยังเสี่ยงที่ผนังห้องจะเปื้อนดำไปด้วยเพราะมือเราไปแตะโดนอีกต่างหาก ดังนั้นหากอยากเคลื่อนย้ายกรอบรูปหรืองานศิลปะเหล่านี้ ควรสวมถุงมือด้วยทุกครั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้ไขมันจากนิ้วมือเราไปทำลายสีของไอเทมแต่งบ้านได้อีก
7. ตั้งเฟอร์นิเจอร์ห่างผนังอย่างน้อย 6 นิ้ว
ใครที่ไม่เคยย้ายตู้หรือโต๊ะอาจนึกไม่ถึงว่าหลังตู้หรือโต๊ะที่ชิดกำแพงนั้นจะมีฝุ่นแอบซ่อนไว้มากแค่ไหน ฉะนั้นเพื่อป้องกันฝุ่นสะสมหนาแน่น เรามาเคลื่อนโต๊ะและตู้ให้อยู่ห่างจากผนังประมาณ 6 นิ้ว แล้วอย่าลืมกวาดพื้นที่บริเวณนี้ทุกครั้งที่ทำความสะอาดห้องรับแขกด้วยนะ
8. ทำความสะอาดม่านและมู่ลี่
แค่เช็ดกระจกอย่างเดียวอาจไม่พอ เราต้องปลดม่านและทำความสะอาดมูลี่อย่างน้อยทุกเดือนด้วย เพราะพื้นที่เหล่านี้ก็มักจะสมสมฝุ่นเอาไว้ไม่น้อยเลยเหมือนกัน
ต้องยอมรับเลยว่าการทำความสะอาดห้องรับแขกครั้งหนึ่งมันเหนื่อยมาก แต่มันก็คุ้มค่าที่จะกำจัดฝุ่นให้หมดไปได้ เพื่อสุขภาพของครอบครัวเราก็ยอมแลกแหละค่ะ
***นอกจากนี้ยังมีสินค้าอื่นๆ เพิ่มเติมที่คุณสามารถเลือกสรรค์กันได้เหมือนไปเดินอยู่ในห้างบิ๊กซีเพียงแค่ คลิก คุณช้อปได้ทันทีที่คุณต้องการทุกที่ทุกเวลา***